วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บัวเต็งเบิ้ลมิลานต้อนพีเอสวี 3:0 ลิ่ว

บัวเต็งเบิ้ลมิลานต้อนพีเอสวี3:0ลิ่วแบ่งกลุ่มชปล.+คลิป 
บัวเต็งเบิ้ลมิลานต้อนพีเอสวี3:0ลิ่วแบ่งกลุ่มชปล.+คลิป

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2013-14

รอบเพลย์ออฟ นัดสอง

วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2556

เอซี มิลาน 3 : 0 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 

รอบเพลย์ออฟ นัดสอง(นัดแรกเสมอ 1-1)

สนาม : ซานซิโร

ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตแท่นเบิร์ก

 


นาทีที่ 8 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อน จากลูกโหม่งของทิม มาตาฟซ์ คริสเตียน อับเบียติต้องพุ่งปัดทิ้งไป

นาทีที่ 9 "ปีศาจเเดง-ดำ"เอซี มิลาน ได้ประตูขึ้นนำ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก่อน 1:0 จากลูกยิงไกลอันสุดสวยของเควิน-พรินซ์ บัวเต็ง

นาทีที่ 18 มาริโอ บาโลเตลลี่ได้ลองยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลโด่งข้ามคานออกไป

นาทีที่ 20 อดัม มาเอร์ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวา คริสเตียน อับเบียติต้องพุ่งปัดบอลทิ้งไป

นาทีที่ 30 เควิน-พรินซ์ บัวเต็งจ่ายบอลให้กับริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่หลุดขึ้นไปยิงด้านฝั่งขวา บอลหลุดเสาเเรกออกไป

นาทีที่ 39 ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่เปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา มาให้กับมาริโอ บาโลเตลลี่โหม่งบอลหลุดเสาสองออกไป

นาทีที่ 47 มัตเตีย เด ชีโย่สกัดบอลไม่ขาด บอลเลยมาถึงจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุมได้โอกาสยิงไปตรงคริสเตียน อับเบียติทุบทิ้งออกไปได้

นาทีที่ 55 สเตฟาน เอล ชาราวีเปิดลูกเตะมุมฝั่งขวา มาให้กับฟิลิปป์ เม็กแซสได้โหม่ง ก่อนมาริโอ บาโลเตลลี่จิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย เอซี มิลาน นำห่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 2:0

นาทีที่ 75 มาริโอ บาโลเตลลี่ได้ลองยิงไกลจากเเถวสอง เยรูน ซูทต้องพุ่งปัดทิ้งไป

นาทีที่ 78 อันเดรีย โปลีไหลบอลจากด้านฝั่งขวา ให้กับเควิน-พรินซ์ บัวเต็งเติมเกมขึ้นมาด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงเสียบเสาสองเข้าไป เอซี มิลาน นำห่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นด้วยผลบอล 3:0

จบเกม เอซี มิลาน เอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 3:0

รวมผลสองนัด "ปีศาจเเดง-ดำ"เอซี มิลาน เอาเอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 4:1 พ้นเข้าสู่รอบเเบ่งกลุ่มการสู้รบยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2013-14 ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอซี มิลาน ระบบ 4-3-3 :
ผู้รักษาประตู : คริสเตียน อับเบียติ
กองหลัง : อินยาซิโอ อบาเต้,คริสเตียน ซาปาต้า,ฟิลิปป์ เม็กแซส,มัตเตีย เด ชีโย่
กองกลาง : ไนเจล เด ย็องก์,ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่,ซัลลีย์ อาลี มุนตารี่
กองหน้า : เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง,มาริโอ บาโลเตลลี่,สเตฟาน เอล ชาราวี

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ระบบ 4-3-3 :
ผู้รักษาประตู : เยรูน ซูท
กองหลัง : โยชัว เบรเน็ต,เจฟฟรี่ย์ บรูม่า,คาริม เรคิก,เยโทร วิลเล่มส์
กองกลาง : อดัม มาเอร์,สไตน์ ชาร์ส,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
กองหน้า : เมมฟิส เดปาย,ทิม มาตาฟซ์,ปาร์ค จี-ซอง

ส่วนผลคู่อื่น

เอซี มิลาน                   3 - 0     พีเอสวี    
เรอัล โซเซียดาด            2 - 0     ลียง    
มาริบอร์                       0 - 1     วิตอเรีย พิลเซ่น    
เซลติก                       3 - 0     ชัคเตอร์ ซารากานดี้    
เซนิตฯ                       4 - 2     ปากอส เฟเรยร่า

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์ผลบอล : บุรีรัมย์พร้อมด้วยเต็มสูบแน่นอนไม่แพ้เอสเตกาลห์ศึก ACL รอบ 8 ทีม

บุรีรัมย์พร้อมเต็มสูบมั่นใจไม่แพ้เอสเตกาลห์ศึก ACL รอบ 8 ทีม   วิเคราะห์บอล : โกรัน ดรูลิช โค้ชกองหน้าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีม ต่างมั่นใจทีมจะทำผลงานได้ดี ในการพบกับเอสเตกาลห์ ในศึก เอเอฟซี ชปล.รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก 21 ส.ค.นี้ ความพร้อมก่อนการแข่งขันเอเอฟซี ชปล.รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ระหว่าง เอสเตกาลห์ (อิหร่าน) พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด(ไทย) ที่สนามอซาดี้ สเตเดี้ยม เวลา 20.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับบ้านเรา 22.45 น. ล่าสุดเมื่อเวลา 12:00น. ตามเวลาพื้นเมืองของวันที่ 20 สิงหาคม 2556 ได้มีการเคลียร์แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการขันแข่ง ที่ ห้องแถลงข่าวของ Iran pro-League กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ทั้งนี้ทางฝั่งเจ้าบ้าน เอสเตกาลห์ ซึ่งนำโดย อาเมียร์ กัลเลนอย เฮดโค้ช และ ฟาฮัด มาจิดี้ กัปตันทีมได้มาร่วมงานแถลงข่าว ส่วนฝั่งทีมเยือน"ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำโดย โกรัน ดรูลิช โค้ชกองหน้า และ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีม ด้าน โกรัน ดรูริช โค้ชกองหน้าของบุรีรัมย์ เผยว่า การขันแข่งกับเอสเตกาลห์ถือว่าเป็นงานที่หนัก ซึ่งเราคงต้องทำผลงานให้ดีที่สุด โดยทีมงานสตาฟฟ์โค้ชมีความมั่นใจในลูกทีมทุกคน ส่วนเรื่องการไม่นำหมายเลข 7 คาเมโร่ กอนซาเลซ มาด้วยนั้น คิดว่าไม่มีปัญหาเพราะทางทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ยังมีผู้เล่นที่ดี ที่สามารถปฏิการกันได้เป็นอย่างดี เราจะเล่นอย่างไม่ประมาทและมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีในเกมนี้ ด้าน สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมบุรีรัมย์ เผยว่า "การขันแข่งวันพรุ่งนี้ นักเตะทุกคนมีความพร้อมกันที่จะลงเล่น และจะทำผลงานให้ดีที่สุด สำหรับคำถามที่ถามว่าที่ผ่านมาการเข้ารอบของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้นเป็นความเซอร์ไพรส์หรือไม่ อยากให้รอดูพรุ่งนี้ว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์หรือไม่ ไม่แน่อาจจะมีอะไรที่เซอร์ไพรส์กว่ารอบที่ตัดผ่านมาก็เป็นได้ ส่วนทางด้าน อาเมียร์ กัลเลนอย เฮดโค้ช เจ้าภาคเผยว่า "ต้องตกลงว่าทีมจากประเทศไทยเป็นทีมที่เก่ง และทำผลงานที่น่าเกินจริงในการเอาชนะผ่านทีมจากอุซเบกิสถานมาได้ ทางฝั่งเรายกย่องและศรัทธาในฝีมือของทีมจากไทย และจะลงเล่นอย่างเต็มที่ ผู้เล่นที่เราจับตามองและต้องระวังของฝั่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือหมายเลข 2 และหมายเลข 7 สำหรับตัวปัญหาเรื่องสภาพทางการเงินของทีมและตัวปัญหาเรื่องการกระตุ้นเงินจากรัฐบาลอิหร่าน จะขอตั้งใจทำงานและจะขอพูดถึงในวันพรุ่งนี้หลังจบเกมส์ ด้าน ฟาฮัด มาจิดี้ กัปตันทีม เอสเตกาลห์ กล่าวว่า "ต้องตกลงว่าทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำงานได้ดีในการตัดผ่านเข้ามารอบแปดทีมสุดท้าย สำหรับวันพรุ่งนี้ทีมของเราจะเต็มที่และเราได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลของเราด้วยเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันให้เราเก็บชัยชนะได้"

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เอาอกเอาใจคนไทย ทรูคว้าสิทธิ์ ยิงสดลูกบอลไทย 4 รายการ 3 ปี

ทรูคว้าสิทธิ์ ยิงสดบอลไทย 4 รายการ 3 ปี 
ทรูคว้าสิทธิ์ ยิงสดบอลไทย 4 รายการ 3 ปี

 

ฟุตบอล : ทรูวิชั่นส์ คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสด โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีกวัน, ไทยคมเอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีก คัพ 3 ปี วงเงิน 1,800 ล้านบาท

นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ในชั้นผู้บริหารกำราบสิทธิผลประโยชน์สมาคมฟุตบอลฯ และ นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป

ร่วมกันแถลงข่าวการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือMOU) ว่า ทรูวิชั่นส์ คว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีกวัน, ไทยคมเอฟเอ คัพ และโตโยต้า ลีก คัพ เป็นเวลา 3 ปี (พ.ศ.2557-2559)

นายวรวีร์ กล่าวว่า การประมูลลิขสิทธิ์ออกอากาศสดครั้งนี้ ใช้วิธีการสมัยใหม่ ที่มีความโปร่งใส และบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยทีมงานมืออาชีพ ซึ่งได้เชิญ เซอร์เดวิด ริชาร์ด ที่ดูแลเรื่องสิทธิ์ประโยชน์ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มาดำเนินการ ซึ่งทรูวิชั่นส์ สามารถชนะคู่แข่งที่เข้าร่วม อีก 3 ราย

ด้าน นายองอาจ กล่าวว่า ทรูวิชั่นส์ ใช้งบคิดคำนวณทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท สำหรับการคว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ส่วนในเรื่องรายละเอียดของการถ่ายทอดสด ว่าจะมีช่องทางใด หรือมีฟรีทีวีใด ร่วมเป็นพันธมิตรนั้น จะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง

ขณะที่ นายอดิศัย กล่าวถึง สิทธิประโยชน์ ที่ทางทีมต่างๆ จะได้รับจากการประมูลขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ว่า 18 ทีม ในไทยพรีเมียร์ลีก จะได้รับเงินสนับสนุนจากการถ่ายทอดสด ทีมละ 20 ล้านบาท/ปี, ยามาฮ่า ลีกวัน 3 ล้านบาท/ปี และลีกภูมิภาค ทีมละ 1 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ภายหลังจากการประมูลขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในประเทศแล้ว ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการขายลิขสิทธิ์ไทยลีก ไปยังต่างเมืองด้วย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้ ในการแจกแจงข่าวฝืนด้วยว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ที่ส่อเค้ายืดเยื้อบานปลาย จะมีผลออกมาอย่างไร ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ประโยชน์ และลิขสิทธิ์ในการออกอากาศสด ที่ลงนามบันทึกความเข้าใจนี้แต่อย่างใด

 

 

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

“เรือใบ“เอาฤกษ์ดุตวาดไล่อัดนิวฯเละ 4-0 แซงผีรั้งจ่าฝูง

“เรือใบ“ประเดิมดุไล่อัดนิวฯเละ 4-0แซงผีรั้งจ่าฝูง 
“เรือใบ“ประเดิมดุไล่อัดนิวฯเละ 4-0แซงผีรั้งจ่าฝูง


ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

(นัดแรก ฤดูกาล 2013-14)

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 - 0 นิวคาสเซิล

สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน: อังเดร มาร์ริเนอร์

 


วิเคราะห์เริ่มเกมครึ่งแรก

ได้แค่ 3 นาที เจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า เกือบได้ประตูนำ เมื่อ เฆซุส นาบาส เปิดบอลให้ เซร์คิโอ อเกวโร่  ยิงจ่อๆไปติดขาของ ทิม ครูล นายทวารนิวฯ มาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา ยิงซ้ำ แต่ก็ยังไปติดบล็อคของ ทิม ครูล ออกหลังไปอีก

น.6 เจ้าบ้านก็มาออกนำจนได้ เมื่อ เอดิน เชโก้ ได้บอลทางซ้ายก่อนเปิดมาโดน ทิม ครูล ดีดเข้าทาง ดาบิด ซิลบา โขกเหน่งๆ 1:0

น.10 นิวคาสเซิล มีโอกาสบ้าง จาก ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา จ่ายลอดช่องให้ โยอัน กุฟฟร็อง สอดมายิงเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้า ไปก่อนแล้ว

น.22 "เรือใบสีฟ้า" หนีห่างเป็น 2-0 จาก เอดิน เชโก้ จ่ายบอลให้ แซร์จิโอ อกูเอโร่ ซัดด้วยขวาระยะ 18 หลาผ่านมือ ทิม ครูล เข้าเสาไกลอย่างงดงาม
    
และช่วงทดเจ็บครึ่งแรก สาลิกาดง เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ สตีเว่น เทย์เลอร์ ไปเจตนาใช้แขนตบ อเกวโร่ "กุน  ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที หมดครึ่งแรก แมนฯซิตี้ นำก่อน 2-0

เริ่มกมครึ่งหลัง

น.50  "เรือใบสีฟ้า" ก็มาได้ประตูที่สามจากลูกฟรีคิก ของ ยาย่า ตูเร่ ระยะ 19หลา เข้าประตูไปอย่างงดงาม แมนฯซิตี้ นำห่าง 3-0

และนาทีที่ 75 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูที่สี่ เมื่อ ปาโบล ซาบาเลต้า จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ เอดิน เชโก้ บอลไหลไปถึง ซามีร์ นาสรี่ กระชากเข้าเขตโทษแปเข้าไปให้ แมนฯซิตี้ นำด้วยผลบอล 4-0

น.86 เจ้าบ้านเกือบได้ลูกที่ 5 จากจังหวะที่ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ยิงเข้าไป แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปแล้ว

จบเกม แมนฯซิตี้ เปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิ่ล 10 คน ไปแบบสบาย 4-0 ตระหง่านขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแซงแมนยู ไปในนัดแรกของฤดูกาล


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้: โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี (กัปตันทีม), โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - เฆซุส นาบาส, ยาย่า ตูเร่, แฟร์นานดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - เอดิน เชโก้, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"
  
นิวคาสเซิ่ล: ทิม ครูล - มาติเยอ เดอบูชี่, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ (กัปตันทีม), สตีเว่น เทย์เลอร์, มาปู ย็องกา-เอ็มบีว่า - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ชีค ติโอเต้, มุสซ่า ซิสโซโก้, โฮนาส กูเตียร์เรซ - โยอัน กุฟฟร็อง, ปาปิสส์ ซิสเซ่

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อัลเวสOG!เเซมบ้าอุ่นพ่ายสวิส1:0


  • อัลเวสOG!เเซมบ้าอุ่นพ่ายสวิส1:0+คลิป ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ วันพุธที่ 14 เดือนที่ 8 2556 สวิตเซอร์แลนด์ (ยุโรป) 1 : 0 บราซิล (อเมริกาใต้) สนาม : เซนต์ จาค็อบ ปาร์ค ช่องเดียวของเกมนี้เกิดขึ้นในนาทีที่ 48 เมื่อเซอร์ดาน ชากิรี่ไหลบอลทะลุช่องให้กับมาริโอ กาฟราโนวิชหลุดขึ้นไปด้านฝั่งขวา ก่อนจะเปิดไปที่เสาสองเเละเป็นความโชคร้ายของดาเนียล อัลเวสที่โหม่งสกัดผิดนัยส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย พรึบกับเป็นช่องชัยให้ สวิตเซอร์แลนด์ เฉือนเอาชนะ "เเซมบ้า"บราซิล ดีกรีแชมป์คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ ด้วยผลบอล 1:0 ในเกมฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม สวิตเซอร์แลนด์ ระบบ 4-2-3-1 : ผู้รักษาประตู : ดีเอโก้ เบนาโญ่ กองหลัง : สเตฟาน ลิชท์สไตเนอร์,ฟิลลิปป์ เซนเดอรอส,ทิมม์ โคลเซ่,ริคาร์โด้ โรดริเกวซ กองกลาง : วาลอน เบห์รามี่,เบลริม เซไมลี่ - กรานิต ซาก้า,เซอร์ดาน ชากิรี่,วาเลนติน สต็อคเกอร์ กองหน้า : มาริโอ กาฟราโนวิช บราซิล ระบบ 4-2-3-1 : ผู้รักษาประตู : เจฟเฟอร์สัน กองหลัง : ดาเนียล อัลเวส,ติอาโก้ ซิลวา,ดานเต้,มาร์เซโล่ กองกลาง : หลุยซ์ กุสตาโว่,เปาลินโญ่ - ฮัล์ค ,ออสการ์,เนย์มาร์ กองหน้า : เฟรด


ฟุตบอลกระชับมิตร สวิตเซอร์แลนด์  1 : 0 บราซิล


วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผลบอล คอนเฟดฯ : บราซิล - ญี่ปุ่น

วิเคราะห์บอลคอนเฟดฯ : บราซิล - ญี่ปุ่น 
วิเคราะห์บอลคอนเฟดฯ : บราซิล - ญี่ปุ่น

วิเคราะห์บอล บราซิล - ญี่ปุ่น

เวลา: 02.00 น.
สนาม: เอสตาดิโอ นาซิอองนาล เดอ บราซิเลีย
ผู้ตัดสิน: เปโดร โปรเอนซ่า (โปรตุเกส)
ถ่ายทอดสด: ทีสปอร์ต

 

 

 

 

 

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

บราซิล

9/6/13 ชนะ ฝรั่งเศส 3-0 (เหย้า) กระชับมิตร
2/6/513 เสมอ อังกฤษ 2-2 (เหย้า) กระชับมิตร
24/4/13 เสมอ ชิลี 2-2 (เหย้า) กระชับมิตร
6/4/5134 ชนะ โบลิเวีย 4-0 (เยือน) กระชับมิตร
25/3/13 เสมอ รัสเซีย 1-1 (กลาง) กระชับมิตร

ญี่ปุ่น

11/6/13 ชนะ อิรัก 1-0 (เยือน) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
4/6/13 เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 (เหย้า) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
30/5/13 แพ้ บัลแกเรีย 0-2 (เหย้า) กระชับมิตร
26/3/13 แพ้ จอร์แดน 1-2 (เยือน) ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
22/3/13 ชนะ แคนาดา 2-1 (กลาง) กระชับมิตร

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

16/10/12 กระชับมิตร ญี่ปุ่น 0-4 บราซิล
22/6/06 ฟุตบอลโลก ญี่ปุ่น 1-4 บราซิล
22/6/05 คอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ ญี่ปุ่น 2-2 บราซิล
4/6/01 คอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ บราซิล 0-0 ญี่ปุ่น
31/3/99 กระชับมิตร ญี่ปุ่น 0-2 บราซิล

ความพร้อม-สภาพทีม

บราซิล

เปาลินโญ่ มิดฟิลด์ห้องเครื่อง เจ็บข้อเท้าในระหว่างการซ้อมเมื่อวันพฤหัสฯ จนต้องยุติกลางคัน แต่บิ๊กฟิลแค่นว่าทีท่าของเขาไม่ได้เร่าร้อนอะไร และยังน่าจะฟิตทันลงช่วยทีมในเกมนัดเปิดสนามได้ โดยจะลงเล่นตรงกลางสนามคู่กับ หลุยซ์ กุสตาโว

ออสการ์ มิดฟิลด์ตัวเก่งจากบราซิล คงจะถูกส่งลงไปเป็นตัวปั้นเกมทางฝั่งขวาอีกครั้ง แม้จะถูกใช้งานอย่างถนอมเป็นพิเศษในโปรแกรมอุ่นเครื่อง เนื่องจากลงเตะไปถึง 70 นัดในฤดูกาลล่าสุด

ส่วนเฟรด หัวหอกตัวหลัก มีตัวปัญหาซี่โครงเดาะมาจากเกมนัดสุดท้ายในลีกบราซิล แต่สภาพร่างกายก็น่าจะสมบูรณ์ดีแล้ว หลังลงเตะในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดได้แบบเต็มเกม และคงจะถูกส่งลงมายืนค้ำเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิมในเกมนี้

เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์บ่อยทีมชุดนี้ แม้จะเท้าบอดมาทั่วๆ 9 นัด หลังทั้งกับสโมสรและทีมชาติ แต่ก็จะยังเป็นตัวหลักให้ทีมอยู่ โดยจะยืนเป็นหน้าต่ำอยู่แถวสอง โดยมี ฮัลค์ กองหน้าร่างใหญ่อีกคน เป็นตัวขึ้นเกมรุกฝั่งซ้าย

ในแนวคล้องมาร์เซโล่ต้องลุ้นเบียดแย่งตำแหน่งแบ็กซ้ายกับฟิลิเป้ หลุยส์ แต่ดานี่ อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา และ ดาวิด หลุยซ์ จะยังเป็นสามตัวหลักในแผงหลัง โดย ชูลิโอ เซซาร์ นายประตูตัวเก๋า คงจะรักษาที่ตั้งมือหนึ่งเอาไว้ได้ต่อไป

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เปาลินโญ่

ผู้เล่นโดนแบน: -

ความพร้อม-สภาพทีม

ญี่ปุ่น

ขุนพลซามูไรต้องรอลุ้นความฟิตของเคสุเกะ ฮอนดะ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ซึ่งมีปัญหาเจ็บต้นขารบกวนมาระยะหนึ่งแล้ว และอาการก็กำเริบขึ้นมาอีก ทำให้ยังไม่แน่ว่าจะพร้อมลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนี้หรือไม่

ถ้าไม่พร้อมก็คงเป็น ชินจิ คางาวะ ดาวเตะจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะถูกขยับจากตัวขึ้นเกมรุกฝั่งซ้าย มาเป็นตัวปั้นเกมตรงกลาง โดยที่ ฮิโรชิ คิโยตาเกะ น่าจะถูกส่งลงมาทำเกมริมเส้นแทน

ส่วน ชินจิ โอกาซากิ ดาวยิงประจำทีม จะรับบทตัวขึ้นเกมรุกฝั่งขวาเช่นเดิม โดยให้ เรียวอิจิ มาเอดะ กอหน้าตัวเก๋า ลงยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า

มาโกโตะ ฮาเซเบะ มิดฟิลด์กัปตันทีม จะกลับมาเป็นตัวตัดเกมแดนกลางในนัดนี้ หลังติดโทษแบนไปในเกมบอลโลกนัดล่าสุด โดยจะจับคู่กับยาสึฮิโตะ เอ็นโดะ มิดฟิลด์ตัวเก๋า ปักหลักตรงกลางสนาม

ขณะที่แผงแบ็กโฟร์ชุดใหญ่ทั้งอาสึโตะ อูจิดะ, มายะ โยชิดะ, ยาสึยูกิ คอนโนะ และยูโตะ นากาโตโมะ จะลงสนามได้อย่างพร้อมหน้า โดยมีเอจิ คาวาชิมะ รับหน้าที่เฝ้าเสา

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เคสุเกะ ฮอนดะ

ผู้เล่นโดนแบน: -


บราซิลต้องจั่วให้สวยในนัดแรก ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความพร้อมของทีมเต็งและเจ้าภาพบอลโลกที่จะระเบิดศึกในปีหน้าแล้ว หลังจากไม่มีคิวเตะแมตช์แข่งขันจริงเลยในช่วงสองปีมานี้ ส่วนผลงานในศึกโคปา อเมริกาก็ถือว่าออกมาน่าผิดหวัง รวมถึงอกหักในโอลิมปิกด้วย ส่วนญี่ปุ่นกำลังคึกมาจากการเป็นทีมแรกที่ได้ตั๋วไปแข่งบอลโลกรอบสุดท้ายผ่านรอบคัดเลือก แต่สภาพทีมซามูไรดูจะกรอบกว่า แถมยังเป็นรองเจ้าบ้านแซมบ้าทุกประตู เกมนี้เจ้าภาพคงต้องจัดหนักเพื่อเอาใจแฟนๆ แม้นักเตะเลือดบูชิโดจะเค้นพลังสู้ แต่ก็ไม่น่าจะต้านไหว และคงจะโดนอัดไปพอท้วมๆ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

บราซิล (4-2-3-1):12. ชูลิโอ เซซาร์; 2. ดานี่ อัลเวส 3. ติอาโก้ ซิลวา 4.ดาวิด หลุยซ์ 6. มาร์เซโล่; 17. หลุยซ์ กุสตาโว 18. เปาลินโญ่; 11. ออสการ์, 10. เนย์มาร์ 19. ฮัลค์; 9. เฟรด

โค้ช: หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่

ญี่ปุ่น (4-2-3-1): 1. เอจิ คาวาชิมะ; 6. อาสึโตะ อูจิดะ 22. มายะ โยชิดะ 15. ยาสึยูกิ คอนโนะ 5. ยูโตะ นากาโตโมะ; 17. มาโกโตะ ฮาเซเบะ 7. ยาสึฮิโระ เอ็นโดะ; 9. ชินจิ โอกาซากิ 4. เคสุเกะ ฮอนดะ 10. ชินจิ คางาวะ; 18. เรียวอิจิ มาเอดะ

โค้ช: อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่

ฮอตสกอร์ผลบอล: บราซิลชนะ 2-0

เกร็ดย่อย

* บราซิลลงเตะคอนเฟเดอเรชั่นส์คัพเป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน ส่วนญี่ปุ่นลงเตะเป็นครั้งที่ 4
* บราซิลชนะ 7 เสมอ 2 ในการพบกับญี่ปุ่น 9 ครั้ง โดยทำได้ 24 ประตู และเสียแค่ 4
* ทั้งคู่พบกันมาแล้ว 2 ครั้ง ในรายการนี้ โดยเสมอ 0-0 ในปี 2001 และเสมอ 2-2 ในปี 2005
* บราซิลชนะญี่ปุ่น 4-0 ในครั้งล่าสุดที่พบกันในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเนย์เมาร์ (2) และเปาลินโญ่ (1) ทำประตูได้ ส่วนอีกลูกมาจากกาก้า ซึ่งไม่อยู่ในทีมชุดนี้
* บราซิลเป็นทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้สูงสุด 3 สมัย (1997, 2005, 2009) และถ้าคว้าแชมป์ครั้งนี้ได้ ก็จะกลายเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ 3 สมัยติด
* ชูลิโอ เซซาร์ และ ดานี่ อัลเวส เป็นเพียงสองนักเตะบราซิลที่หลงเหลือมาจากทีมชุดแชมป์เมื่อปี 2009
* ผลงานที่ดีที่สุดในรายการนี้ของญี่ปุ่นคือตำแหน่งรองแชมป์ในปี 2001 ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่พวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้
* เฟรด ทำ 5 ประตู ในการลงเตะให้บราซิล 6 นัดหลัง ขณะที่ ชินจิ โอกาซากิ ก็ทำ 5 ประตู ในการลงเตะให้ญี่ปุ่น 6 นัดหลังเช่นกัน

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หมาป่างาบแชร์วินโญ่320ล้านบ.เซ็น4ปี

หมาป่างาบแชร์วินโญ่320ล้านบ.เซ็น4ปี 
หมาป่างาบแชร์วินโญ่320ล้านบ.เซ็น4ปี

วิเคราะห์บอล : แชร์วินโญ่ โบกมืออำลา อาร์เซน่อล ได้ฤกษ์โยกซบ โรม่า สมใจเสียที ค่าตัว 8 ล้านยูโร (320 ล้านบาท) เซ็นยาว 4 ปี ร่วมงานโค้ชเก่า รูดี้ การ์เซีย

"หมาป่ากรุงโรม" อาแอส โรม่า ยอดทีมแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เป็นการในการฉกตัว แชร์วินโญ่ กองหน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ของ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมชั้นนำจากเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เรียบร้อยแล้ว

ด้วยค่าตัวราว 8 ล้านยูโร (320 ล้านบาท) เซ็นสัญญาค้าแข้งเป็นเวลา 4 ปี โดยตัวนักเตะเดินทางถึงกรุงโรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย

แชร์วินโญ่ วัย 26 ปี เริ่มต้นเส้นทางค้าหน้าแข้งกับ เบเวเรน กลุ่มในลีกเบลเยียม ในปี 2005 จากนั้นในปี 2007 ย้ายมา เลอ มองส์ ซึ่งเวลานั้นยังอยู่บนเวทีลีก เอิง ฝรั่งเศส และอีก 2 ปีต่อมาเคลื่อนไป ลีลล์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะนำทีมคว้าแชมป์ลีก เอิง และ เฟร้นช์ คัพ 2011 ก่อนถูก อาร์เซน่อล ดึงตัวมาร่วมทีมในปีเดียวกันนั้นด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (400 ล้านบาท) แต่กลับโชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง ด้วยผลบอลแค่ 11 ประตู จาก 63 นัด


ทั้งนี้ แชร์วินโญ่ จะได้หวนกลับมาร่วมงานกับ รูดี้ การ์เซีย อดีตเจ้านายเก่าที่ ลีลล์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกุนซือทีม โรม่า