วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มาเพ่งพินิศการวิจารณ์วิเคราะห์บอลของกลุ่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกันสักหน่อยดีกว่า รวมทั้งทีมฉลาดของพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่2



คงจะต้องสั่งเจ้าพ่อไปขับซาเล้ง



มาวิเคราะห์บอลภายหลังที่ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ออกทีวีให้ทั่วโลกได้เห็นว่าเป็นนักเตะ แมนฯยูไนเต็ดเรียบร้อย ตามมาเพราะข่าวลือหนาหูว่านอกจาก ดิ มาเรีย, ลุค ชอว์, อันเดร์ เอร์เรร่า 3 ตัวบิ๊กเนมที่คว้ามาแน่ๆ จากแหล่งข่าวชื่อดังอีกเจ้าระบุว่า ดาลี่ย์ บลินด์ คงย้ายมาฝังหนอกที่แมนเชสเตอร์ เช่นกัน ซึ่งต้องตามเช็กกันต่อไป

เมื่อก่อนวันเสาร์ที่ผ่านมา จะถึงนี้มีคิวได้แก้ตัวกับสาวกปีศาจแดงทุกหมู่เหล่าอีกครั้งกับ เบิร์นลี่ย์ ในศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากแย่งได้เพียง 1 แต้มจากทีมสถานะต่ำกว่าบนรูปเกมซึ่ง ผมขี้เกียจจะอธิบายอะไรมาก เห็นๆ กันอยู่ว่ามีปัญหาทุกตำแหน่ง

ซึ่งเอาเป็นว่าก็อย่างที่เห็นคือ เล่นไม่ดี

โดยที่ตลอด 2 เกมที่ทะลวงมามีโอกาสยิงเข้ากรอบไม่ถึง 10 ครั้ง ตาข่ายสั่นไป 2 เสียไป3 โดยเสียจากลูก

  • ยิงไกล
  • ลูกครอสจากด้านข้างในเกมเปิดสนาม 
  • และลูกเตะมุมในเกมกับซันเดอร์แลนด์ 

หรือ คืออากัปกริยาแบบนี้มันเหมือนเด็กตื่นเวทีครับ โดยเฉพาะตัวแทนทั้ง 11 ในทุ่งหญ้า ที่โดนวิจารณ์อย่างหนักถึงเรื่องของขีดความสามารถเฉพาะและสิ่งที่เปิดเผยในสนาม

โดยรวม สรุปทั้งเกมรุกและรับยังไม่ได้เรื่องพอๆ กัน จุดที่ผมตั้งข้อเห็นและจับผิดมาโดยตลอดคือ




  1. โดยประการแรก 3-5-2 นักเตะชุดนี้เล่นกันไม่ดี 
  2. ในประการที่สอง 4-4-2 นักเตะชุดนี้ก็เล่นกันไม่ดี 
  3. ซึ่งประการที่สาม 4-2-3-1 ในยุคป๋านักเตะส่วนใหญ่ก็เล่นกันไม่ดี 
  4. และประการที่สี่ แม้จะได้โค้ชระดับบรมกุนซือลูกหนังมาดูแลก็ยังเล่นกันไม่ดี ผมว่าที่ผลงานแย่อาจไม่ได้เป็นเนื่องจากโค้ช แผนการหรือกบิลอะไรทั้งสิ้น 

เพราะว่าเรื่องนี้ก็พอเข้าใจครับว่าเครื่องร้อนช้าแถมเพิ่งผ่านไปแค่ 2 เกม ไม่ควรทำตัวเป็น เจ๊กตื่นไฟ ตรอกนี้ยังอีกยาวไกล แต่พอถึงช่วงโค้งสุดท้ายขึ้นมาจริง ก็คงเห็นใครหลายคนออกมาหวนระลึกอดีตกับแต้มที่ทำหล่นเรี่ยราด ช่างเป็นความดราม่าที่แสนงี่เง่าจริงๆ พูดคุยแล้วมันทุกข์ใจว่าแล้วมาอ่านเรื่องสบายๆ กันดีกว่า

ถ้าหากว่าลองมองย้อนไปสมัยที่ผมยังไม่รู้ว่า หนังสือโป๊ สมรรถหาซื้อได้ตามตลาดมืด ผมเคยขับซาเล้งครับ ซาเล้ง คือมอเตอร์ไซด์ประยุกต์พ่วงข้างและมี 3 ล้อ

และถึงแม้ว่าจะมีโอกาสขับไม่กี่ครั้งแต่ก็เข้าใจได้ว่านอกจากเครื่องบินกับเรือดำน้ำแล้ว ซาเล้ง จัดเป็นพาหนะที่ต้องอยู่ความช่ำชองระดับสูงในการขับขี่ให้ปลอดภัย



ถ้าหากพูดกันง่ายๆ จะเป็นเซียนนักบิดจากขึ้นตรงต่อไหนมาเจอ ซาเล้ง เนี่ยไปไม่เป็นสักราย

ถ้าหากหลังจากลองควบตะบึงออกถนนใหญ่ด้วยความจำเป็นแล้ว ก็พบว่าการกะระยะยากกว่ารถปกติหลายเท่าตัวนัก แถมควบคุมยากและคาดเดาองศาของล้อลำบาก โดยรวมไม่เป็นอย่างที่ใจโจ๋ต้องการนัก การจะบิดแซงชาวบ้านจึงทำได้แค่ฝัน

ซึ่งถ้าลองเปรียบนักเตะปิศาจแดงเป็นรถแข่ง ในอดีตมันคือรถชั้นดียี่ห้อดังก้องโลกแต่เมื่อกาลคราวไม่อนุญาติให้อยู่ยั้งยืนยงสภาพก็ไม่ต่างอะไรกับ ซาเล้ง

สำหรับการคว้า ดิ มาเรีย มาด้วยราคาบ้าเลือด ราวๆ 60 ล้านปอนด์ นั่นหมายความว่า ฟาน ฮัล จะแต่งรถเก่าคันนี้ซะใหม่ แม้จะน่าปวดกะโหลกกับทีมงานที่ไม่เก่ง นับตั้งแต่เสีย ซีอีโอ มือ 1 อย่างเดวิด กิลล์ ไป ทีมปิศาจแดงก็ขาดสาลิกาลิ้นทองการจะติดต่อซื้อขาย จนจะกลายเป็นเสี่ยใจป้ำควักกระเป๋าบ้าเลือด ถ้าว่าในเมื่อลงสนามแข่งแล้ว ขนาดคนเก่งอย่าง ฟาน ฮัล ก็ยังไม่มีทางเลือก

ยิ่งถ้ายังขี้เหนียว ฟาน ฮัล ก็ไม่ต่างอะไรกับ เจ้าพ่อขับซาเล้ง เพราะมิว่าสุดยอดมาจากสวรรค์ชั้นไหน แต่ถ้าที่คร่อมอยู่สภาพมันไม่ใช่รถแข่ง ก็ยากที่จะขับแซงชาวบ้านอยู่ดี



ทีมผีแดงข้อนคลัง1,800 ล้าน ซิว วิดัล ใน 24-48 ชั่วโมง



ครั้นเมื่อกัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต สื่อชั้นนำของอิตาลี ได้ตีข่าวว่า ทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัว อาร์ตูโร่ วิดัล มิดฟิลด์ทีมชาติชิลี จากสโมสรยูเวนตุส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เพราะว่าที่ทีมแมนฯยูฯ เพิ่งจะได้ตัว อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่า มาร่วมทีม ด้วยค่าตัวเป็นสถิติใหม่ของเกาะอังกฤษและเป็นอันดับ 6 ของโลกที่ 59.7 ล้านปอนด์หรือ 3,152 ล้านบาท
 แต่ดูเหมือนว่า หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์ ยังคงหมายมั่นนักเตะใหม่เข้ามาค้ำจุนความเข้มแข็งอีก

ซึ่งสาธยายจาก กัซเซ็ตต้า ที่เป็นสื่อกีฬาเบอร์หนึ่งของอิตาลี ระบุว่า เฟอร์นานโด เฟลิเซวิช เอเยนต์ของ วิดัล เดินทางมาที่เมืองแมนเชสเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะมาเจรจากับ แมนฯยูฯ เกี่ยวกับเรื่องการย้ายทีม

โดยที่สื่อเจ้านี้เผยอีกว่า วิดัล มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ซึ่งหลังจากฝึกซ้อมกับ ยูเวนตุส เสร็จสิ้นลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดาวเตะทีมชาติชิลีหลีกเลี่ยงที่จะสบตากับแฟนบอลทีมม้าลายอีกด้วย

และสำหรับค่าตัวในการย้ายทีมของ วิดัล คาดว่าน่าจะอยู่ที่ราว 42 ล้านยูโรหรือ1,763 ล้านบาท ซึ่งแข้งวัย 27 ปีตอบตกลงที่จะเซ็นสัญญาค้าแข้งอยู่ในโรงละครแห่งความฝัน 5 ปี และ แมนฯยูฯ จัดเตรียมที่จะเปิดตัว วิดัล เป็นสมาชิกใหม่ภายใน 24-48 ชั่วโมงนับจากนี้


มาดูทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ในสัปดาห์ที่ 2



หลังจากจบไปแล้วสำหรับสัปดาห์ที่ 2 ของใช้ศึกพรีเมียร์ลีก 2014-15 หลังเกม ซูเปอร์ มันเดย์ไนท์ เมื่อคืนนี้ที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดที่อาศัยเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ 3-1 ประตู

ถึงแม้มีเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่เก็บชัยชนะได้ 2 นัดรวดคือ 
  1. สเปอร์ส
  2. เชลซี
  3. แมนฯ ซิตี้ 
  4. สวอนซี 

โดยเป็น ทีมไก่เดือยทอง ที่ครองตำแหน่งจ่าฝูงไปเพราะประตูได้-เสียดีกว่าอีก 3 ทีมนั่นเอง

ซึ่งเช่นเคย ฟุตบอลเตะจบสัปดาห์ ทีมยอดเยี่ยมก็ต้องตามมา วีกนี้แข้งใดติดทีมบ้างเชิญรับชมครับ



รายชื่อทีมยอดเยี่ยมโปรแกรมพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ที่ 2


  • ผู้รักษาประตู
          1.ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เชลซี)

  • กองหลัง
          1.อลัน ฮัตตัน (แอสตัน วิลล่า)
          2.โยนาส โอลส์สัน (เวสต์บรอมฯ)
          3. เอริก ไดเออร์ (สเปอร์ส)
          4. แดนนี่ โรส (สเปอร์ส)

  • กองกลาง
          1.ลี แคตเตอร์โมล (ซันเดอร์แลนด์)
          2.เชส ฟาเบรกาส (เชลซี)
          3.มาร์ค โนเบิ้ล (เวสต์แฮม)
          4.เอริก ลาเมล่า (สเปอร์ส)
          5.นาเซอร์ ชาดลี่ (สเปอร์ส)

  • กองหน้า
          1.สเตวาน โยเวติช (แมนฯ ซิตี้)


คลิ๊กชมไฮไลท์พรีเมียร์ลีกทุกคู่ ที่นี่



เมื่อแฟนผี 8 ขวบปัดใส่เสื้อยานาไซเหตุเปลี่ยนเบอร์






เท่าที่เจมส์ คอลลินส์ สาวกทีม ปีศาจแดง ตัวน้อย ไม่ยอมรับสวมเสื้อ ยานาไซ แม้กว่าจะเก็บตังซื้อมาได้ เหตุแข้งสุดโปรดเปลี่ยนจากเบอร์ 44 ไปใส่หมายเลข 11 แทน กิ๊กส์

ซึ่งเจมส์ คอลลินส์ แฟนบอลตัวน้อย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชื่อดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วัย 8 ปี ไม่ยอมที่จะสวมเสื้อเบอร์ 44 ของ อัตนาน ยานาไซ ปีกดาวรุ่งทีมชาติเบลเยี่ยม ที่เก็บหอมรอมริบกว่าจะซื้อมาไว้เป็นครอบครองได้ เนื่องจากผิดหวังที่นักเตะคนโปรดนั้นเปลี่ยนไปใส่เสื้อเป็นเบอร์ 11 ของ ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานดาวเตะ ทีมปีศาจแดง

เพราะเจ้าหนูวัยกระเตาะคลั่งไคล้ในตัวของ ยานาไซ อย่างมากจนถึงขั้นเก็บเงินที่ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดซื้อเสื้อของนักเตะคนโปรดที่ปักหมายเลข 44 มาครอบครองด้วยราคา 93.20 ปอนด์หรือ 5,126 บาท 

โดยที่หนูน้อยนั้น ยังไม่ทันได้ใส่ แต่ยานาไซ กลับโยกไปสวมหมายเลข 11 ซึ่งเก่าก่อนเป็นของ กิ๊กส์ จึงทำให้ คอลลินส์ นั้นไม่ยอมที่จะสวมเสื้อตัวดังกล่าว และถึงแม้ เชอร์ริล ผู้เป็นแม่จะยื่นเรื่องขอให้ทาง เมกะสโตร์ เปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ให้ แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธไป

ซึ่งทางมารดาของเจ้าหนู คอลลินส์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาคลั่งไคล้ แมนฯ ยูไนเต็ด มากๆ และเขาก็พูดถึงแต่สโมสรนี้ตลอดช่วงที่เข้าแคมป์ฟุตบอลช่วงซัมเมอร์ เขารอไม่ไหวแล้วที่จะได้สวมเสื้อใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และก็มักจะถามดิฉันอยู่ตลอดว่าสั่งซื้อเสื้อมาให้แล้วหรือยัง เขาใส่เสื้อตัวนี้แค่ 2-3 ครั้งเองเมื่อรู้ว่า ยานาไซ นั้นเปลี่ยนเบอร์เสื้อแล้ว ซึ่งเราเองก็พยายามขอร้องกับทาง เมกะสโตร์ ให้เปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ให้หน่อย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบ

และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาทางสโมสรได้สั่งเปลี่ยนเสื้อของ เวย์น รูนี่ย์ ใหม่ เนื่องจากมีปัญหาสะกดชื่อผิด นี่ไงล่ะคือความผิดพลาดของพวกเขา แต่ขณะที่เรานั้นยังไม่ได้ทำอะไรทำชั่วเลย อย่างน้อยดิฉันยอมเห็น คอลลินส์ อดทนรอหน่อยยังดีกว่าเห็นเขาผิดหวังนะ เชอร์ริล ร่ายยาว



มาทำการพลิกแฟ้มการทำลายสถิติแข้งแพงสุดลีกผู้ดี

+5อันดับแข้งแพง



ซึ่งการลงมาของ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกอาร์เจนไตน์ของ ทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ หรือ 3,283.5 ล้านบาท ได้กลายเป็นสถิติแข้งแพงสุดคนใหม่ที่ทีมจากอังกฤษซื้อนักเตะเรียบร้อย

สำหรับเจ้าของสถิติคนก่อนหน้านี้คือ เฟร์นันโด ตอร์เรส หัวหอกทีมชาติสเปน ที่ย้ายจากทีม ลิเวอร์พูล มาทีม เชลซี เมื่อเดือน มกราคม 2011 ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์นั่นเอง แต่ถ้านับเนื้อๆนักเตะสัญชาติอังกฤษแท้ ๆ แพงที่สุดยังเป็น แอนดี้ คาร์โรลล์ กองหน้าร่างใหญ่ ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ย้ายจากทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มาทีม ลิเวอร์พูล เพื่อแทนที่ ตอร์เรส ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน

โดยที่ทางด้านเจ้าของสถิติแข้งแพงสุดของเกาะอังกฤษที่ถือครองสถิติยาวนานที่สุด ยังเป็นของ กัปตันมาร์เวล ไบรอัน ร็อบสัน ที่ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อมาจากทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในเดือนตุลาคม 1981 ด้วยราคา 1.5 ล้านปอนด์ ซึ่งกว่าจะมีแข้งแพงกว่านี้ก็ต้องรอถึง 14 ปี เมื่อ แอนดี้ โคล ย้ายจากทีม นิวคาสเซิ่ล มาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม 1995 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์

ในส่วนของ เทรเวอร์ ฟรานซิส ซึ่งเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ เพราะเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ค่าตัวแตะหลักล้านปอนด์ เมื่อย้ายจากทีม เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ไป น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในปี 1979 ด้วยค่าตัวทั้งหมด 1.18 ล้านปอนด์นั่นเอง



และการสลายสถิติ แข้งแพง ของลีกอังกฤษก่อนที่ ดิ มาเรีย จะมาถึงรังผี

โดยถ้าไม่ดูเรื่องการทำลายสถิติ 5 อันดับนักเตะแพงที่สุดในตารางพรีเมียร์ลีก จะมีดังนี้

1.อังเคล ดิ มาเรีย เรอัล มาดริด ย้ายไปทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ราคา 59.7 ล้านปอนด์หรือ 3283.5 ล้านบาท
2.เฟร์นานโด ตอร์เรส ลิเวอร์พูล ย้ายไปทีม เชลซี 50 ราคา ล้านปอนด์หรือ 2750 ล้านบาท
3.เมซุต โอซิล เรอัล มาดริด ย้ายไปทีม อาร์เซน่อล 42.4 ราคา ล้านปอนด์หรือ 2332 ล้านบาท
4.เซร์คิโอ อเกวโร่ แอต. มาดริด ย้ายไปทีม แมนฯ ซิตี้ 38 ราคา ล้านปอนด์หรือ 2090 ล้านบาท
5.ฆวน มาต้า เชลซี ย้ายไปทีม แมนฯ ยูไนเต็ด 37.1 ราคา ล้านปอนด์หรือ 2040.5 ล้านบาท

เครดิตภาพ : DailyMail

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น