ศึกคิงส์ คัพ ในความทรงจำ +คลิป
ซึ่งอีกไม่กี่วัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ ที่รู้จักกันดีในนาม ศึกคิงส์ คัพ ก็จะระเบิดศึกขึ้นที่ดินแดนย่าโม จังหวัดนครราชสีมา แล้วนะครับ
โดยที่ คิงส์ คัพ ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 43 แล้ว ย้ำอีกทีว่า 4 กรุ๊ปที่เข้าร่วมฟาดแข้งกันประกอบไปด้วย ทัพช้างศึก
- ทีมชาติไทย
- กรุ๊ปชาติเกาหลีใต้ ชุดปรีโอลิมปิก
- หมู่ชาติฮอนดูรัส ชุดยู20
- กรุ๊ปชาติอุซเบกิสถาน ที่คาดว่าน่าจะเป็นชุดบี
โดยที่ทั้ง 4 ทีมจักเตะแบบพบกันหมด ซึ่งเหล่าที่มีคะแนนสูงสุดก็จักได้ถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติไปครองนั่นเอง
แลไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว กระแส หมู่ชาติไทยฟีเวอร์ ยังแรงดีไม่มีตกแบบนี้ ขอโอกาสพาท่านผู้อ่านย้อนความหลัง ถึงฟุตบอลถ้วยนี้กับครั้งที่ข้ามๆ มาบ้างดีกว่ากับ ศึกคิงส์ คัพ ในความทรงจำของแฟนบอลไทย มีอะไรบ้าง เชิญรำลึกด้วยกัน
ข้อที่ 1. ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 25 พ.ศ 2537 เหล่าชาติไทย ถล่ม หมู่ชาติเยอรมัน 4 - 0!!
โดยโปรแกรมบอลชิงถ้วยพระราชทาน ศึกคิงส์คัพครั้งที่ 25 ในปี 2537 นักเตะตัวหลักอย่าง
- ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
- ธชตวัน ศรีปาน ไม่ใช่หรือ ตะวัน ศรีปาน ในตอนนั้น
- ดุสิต เฉลิมแสน
- ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล
- โกวิทย์ ฝอยทอง
ซึ่งทำให้ชนะ หมู่ชาติเยอรมันตะวันตก ไป 4 - 0 ในนัดชิงชนะเลิศ
แต่ว่าอย่างไรก็ดีเมื่อได้วิเคราะห์บอลขุนพลเมืองเบียร์ทัพนี้ถือว่าไม่ใช่นักเตะทีมชาติชุดใหญ่นะครับ เป็นคณะระดับแชมป์ภูมิภาค แต่สมาคมฟุตบอลของเยอรมันส่งมาในฐานะทีมชาติเท่านั้นเอง
ข้อที่ 2. ศึกคิงส์ คัพ ในครั้งที่ 31 พุทธศักราช 2543 กรุ๊ปชาติบราซิลชุดใหญ่ ถลุง หมู่ชาติไทย 7 - 0 !
เพราะที่นัดประวัติบุคคลศาสตร์ที่ควรจดจำอย่างแท้ยิ่ง ตราบใด พวกแชมป์โลก อย่าง พวกชาติบราซิล ได้จัดเต็มชุดใหญ่ ไล่ถล่ม กลุ่มชาติไทย 7-0 จากการทำประตูของ
- 1.ริวัลโด้ ยิงไปในนาทีที่ 12 กับนาทีที่ 40
- 2.โรนัลดินโญ่ ยิงไปในนาทีที่ 40
- 3.เอเมอร์สัน ยิงไปในนาทีที่ 49 กับนาทีที่ 85
- 4.โรเก้ จูเนียร์ ยิงไปในนาทีที่ 73
- 5.มาริโอ ยาร์เดล ยิงไปในนาทีที่ 80
พร้อมกับนอกจากรายนามนักเตะระดับโลกที่ทำประตูเหล่านี้แล้ว ยังจะมี
- โจวานนี่ เอลแบร์
- คาฟู
- โรแบร์โต้ คาร์ลอส
- จูนินโญ่ เปอร์มันบูร์กาโน่
- เซ โรเแบร์โต้ ฯลฯ ที่ได้ลงสนามอีกด้วย
ข้อที่ 3. ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 28 พุทธศักราช 2540 ลูกไขว้บรรฟุ้งเฟื่องโลกของ เดอะ ตุ๊ก
พร้อมทั้งอีกหนึ่งลูกยิงในตำนาน ศึกคิงส์ คัพ นั่นก็คือ ลูกไขว้ยิงประตูด้วยซ้ายของ เพชฌฆาตหน้าหยก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ซึ่งได้ไขว้เท้าซ้ายซัด ทีมชาติโรมาเนีย ชุดเล็ก จากการเปิดของ เสนาะ โล่งสว่าง ทางกราบขวาของกรอบเขตโทษ ให้ไทยชนะไป 1 - 0 แม้ว่าขณะนั้น เดอะ ตุ๊ก จักมีอายุถึง 38 ปีแล้วก็ตาม
ข้อที่ 4. ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 14 พุทธศักราช 2524 ขยี้โสมแดงสุดมันส์.
ภายหลังที่ตารางบอลหมู่ชาติไทย เอาชนะ เหล่าชาติเกาหลีเหนือผลบอล 2 - 1 ในนัดชิงชนะเลิศ ชนิดสนามศุภชลาศัยแตก ตอนนั้น เกาหลีเหนือ เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในทัวร์นาเมนต์ และขึ้นนำ ไทย ไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ซึ่งมองมุมไหน คณะไทยก็ไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย
แต่ซ๋ษเด็กหนุ่ม กองหน้าตัวใหม่ของกรุ๊ปชาติไทย ที่มีนามว่า ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ได้ยิงตีเสมอให้กับกรุ๊ปชาติไทยได้ 1 - 1 ในช่วงท้ายของเกม จนต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีกครึ่งละ 15 นาที พร้อมทั้งเป็นกัปตันทีม เกาหลีเหนือ ที่ทำเกิดแฮนด์บอลในเขตโทษ
ทำให้แฟนบอลรอบๆ สนาม ที่เต็มลู่วิ่ง ต่างวิ่งลงไปสวมกอดนักเตะคณะชาติไทยทันที แฟนบอลเกือบแสนคนในสนามศุภฯต่างดีใจว่าคณะได้แชมป์แล้ว ทั้งที่ยังไม่มีการยิงจุดโทษเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่ เดอะ ตุ๊ก จักได้รับหน้าที่สังหารเข้าไป และกลายเป็นซุปตาร์ของวงการฟุตบอลไทยชั่วข้ามคืน
ข้อที่ 5. ศึกคิงส์คัพ ครั้งที่ 27 - 29 ช่วง สนามแตก ของฟุตบอลคณะชาติไทย
ก็ไม่มีอะไรมาก วิเคราะห์ผลบอลตามคลิปเลยครับ บรรยากาศสุดยอด ถึงแม้จักดูไม่น่าปลอดภัยนักก็ตาม ฮ่าๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น